‘สมพงษ์’ ลาออกเปิดทางคนรุ่นใหม่ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นั่ง ปธ.ที่ปรึกษา

‘สมพงษ์’ ลาออกเปิดทางคนรุ่นใหม่ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นั่ง ปธ.ที่ปรึกษา

สมพงษ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า เพื่อไทย เปิดทางคนรุ่นใหม่ โดย แพทองธาร ชินวัตร นั่งประธานที่ปรึกษาแทน นาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศลาออกจากตำแหน่งในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ซึ่งหลังจากที่หมอเลี้ยบได้ลาออกจากตำแหน่งก็ได้เชิญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณในที่ประชุมใหญ่สามัญพรรค ที่จะมานั่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษานวัตกรรมใหม่ ขึ้นเวทีประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย

โดย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณท่านหัวหน้าพรรค 

ที่ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสร่วมงาน พร้อมกล่าวย้อนหลังว่า ตอนตนเองอายุ 8 ขวบ เคยติดตามคุณพ่อ (ทักษิณ) อายุ 12 ปี คุณพ่อ ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้น ท่านพาดิฉันไปพบปะพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เด็กอายุ 12 ได้พบเห็น ทั้งนี้นางสาวแพทองธารยังได้เน้นย้ำความสำคัญการเชื่อมโยงเจเนอเรชันคนรุ่นใหม่ ไปสู่อนาคต เพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถเดินไปข้างหน้าได้

ธรรมนัส ยิ้มร่า หลังประชุม พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันปัญหาสิ้นสุดแล้ว โบ้ย ประวิตร ตอบว่าตนยังนั่งตำแหน่งเลขาฯพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.สงพะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค

โดย ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าในส่วนของคำถามที่ว่าปัญหาจบลงแล้วหรือยัง รวมถึงยังได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือไม่นั้น ขอให้ไปถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เดี๋ยวรอฟังหัวหน้าพรรค เพราะตนต้องรีบไปขึ้นเครื่องเดินทางไปทำธุระและทำบุญที่จ.ร้อยเอ็ด เดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ายังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคพปชร.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอให้รอการแถลงข่าวจากพรรคและหัวหน้าพรรค ยืนยันบรรยากาศการประชุมไม่มีการทะเลาะกัน ซึ่งก่อนออกรถก็ยังมีการถามนักข่าวว่าไปด้วยกันไหม ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

ในเวลาต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ ยืนยันว่าปัญหาทุกอย่างยุติลงแล้ว มั่นใจว่าสมาชิกจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และคงไม่ต้องมีการพูดคุยเรื่องเก่ากันอีก ตามที่หัวหน้าพรรคต้องการให้ปัญหาทุกอย่างจบที่ตนเอง แล้วเดินหน้าทำงาน โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และตนคงไม่ต้องปรับเปลี่ยนท่าทีอะไร เพราะแต่ละคนก็ทำงานของตัวเองต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเลขาธิการพรรคยังคงเป็นคนเดิม จะทำงานร่วมกับนายกฯ ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จะพูดคุยกันเอง ตนขอทำงานตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวนายกฯต่อสายตรง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาความขัดแย้ง

นักร้องมาแล้ว! ‘ศรีสุวรรณ’ ยื่น กกต. สอบ ‘ประยุทธ์’ หวั่นครอบงำ

ศรีสุวรรณ บุก กกต. ยื่นสอบ ประยุทธ์ จากกรณีเรียกหารือ รมต. พลังประชารัฐ ถามพฤติกรรมดังกล่าวชี้นำหรือไม่? นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าตนได้เดินทางไปยัง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อร้องให้ตรวจสอบและวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จากกรณีที่ เรียกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐเข้าหารือ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแก้เกี้ยวว่าเป็นการหารือกิจการบ้านเมืองธรรมดาทั่วไป แต่เชื่อว่าโซเชียลมีเดียและสังคมไทยไม่เชื่อ เพราะหลังจากการหารือดังกล่าวแล้วก็นำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพลังประชารัฐมากมาย

โดยเฉพาะเรื่องการปรับรื้อโครงสร้างของพรรค และยังมีการนัดประชุมเป็นการด่วนของกรรมการบริหารพรรควันที่ 28 ตุลาคม ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการหารือกันของ รัฐมนตรีกับนายกฯที่ผ่านมา พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายบุคคลใดที่อาจมิใช่สมาชิกของพรรคการเมืองเข้าไปครอบงำ หรือ ชี้แนะ ชี้นำ การดำเนินกิจการของพรรคการเมืองได้

ส่วนในมาตรา 29 ระบุชัดว่าห้ามมิให้บุคคลใด ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้ามาครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมทางการเมืองได้ ดังนั้นพฤติกรรมของพล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่เข้าไปดำเนินการดังกล่าว เชื่อแน่พล.อ.ประยุทธ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมภายในของพรรคพลังประชารัฐ

จึงน่าจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 28 และ29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยบทลงโทษความผิดในมาตรา 28 ที่หนักคืออาจจะเกี่ยวพันไปถึงมาตรา 92 (3) ซึ่งอาจเข้าข่ายการยุบพรรคได้ หาก กกต.วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 ก็สามารถจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อยุบพรรคได้

เมื่อถามว่า การประชุมพรรคยังไม่เริ่มแต่มาร้องเรียนก่อนความผิดยังไม่เกิด นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตนจะนำมาร้องเพิ่มได้อีก เพราะถ้าหลังจากนี้ถ้าไม่มีการพูดคุยกันเรื่องพรรคการเมืองจริง แน่นอนว่ากรรมการบริหารพรรค 26 คนก็คงจะไม่มีการลาออกหรือจะไม่มีการประชุมเพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรค

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป