รปภ.คอนโด ข่มขืนลูกบ้าน พี่ชายเผยรักแม่มาก แต่ยาบ้าทำเสียคน

รปภ.คอนโด ข่มขืนลูกบ้าน พี่ชายเผยรักแม่มาก แต่ยาบ้าทำเสียคน

พี่ชาย รปภ.คอนโด ข่มขืน ลูกบ้าน เดินทางมาเยี่ยมน้อง เผย ปกติ มนตรี ใหญ่กระโทก เป็นคนรักแม่มาก ตอนเด็กพฤติกรรมเบี่ยงเบน แต่มาเสียคนเพราะยา ความคืบหน้าคดี รปภ.คอนโด บางแค ล่าสุด (7 ม.ค.65) นายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้า รปภ.คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี ที่ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านสาว แล้วหลบหนีเข้าป่าไปกบดานที่จังหวัดสระบุรี กระทั่งถูกจับกุมในภายหลัง

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 ม.ค.ที่ สน.เพชรเกษม 

พี่ชายนายมนตรี รปภ.คอนโด เดินทางมาเยี่ยมและฝากสิ่งของให้น้องชายตนเอง ซึ่งเจ้าตัว ได้ตอบคำถามนักข่าว ระบุ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับนายมนตรี ตอนนี้เพียงมารอพบพนักงานสอบสวนเพราะตนเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของนายมนตรี ซึ่งมีเจ้านายที่พ่อแม่ของเขาเคยทำงานด้วยใน จ.สระแก้ว ส่งมาดูแล บอกเลยว่า หากไม่ได้ทีมงานพวกตนช่วยไว้ ป่านนี้ตำรวจคงยังตามจับตัวไม่ได้ ซึ่งตนรู้จักกับนายมนตรี มานาน เพราะอยู่ละแวกเดียวกัน

เมื่อตอนเด็กๆ เขามีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เพราะคบแต่เพื่อนผู้หญิง แต่ที่มาเสียก็เพราะยาบ้า ซึ่งเคยเสพเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วเลิกไป และเพิ่งจะกลับมาเสพอีก ปกติเขาเป็นคนกตัญญู รักแม่มากๆ ไม่เคยแม้แต่จะดูคลิปลามกอนาจาร ส่วนเรื่องทางคดี ก็ไม่ได้คิดที่จะประกันตัว เพียงแต่จะหาทางเยียวยาให้กับผู้เสียหายได้อย่างไรเท่านั้น

ผู้ต้องหาโทรป่วย ล่วงละเมิดทางเพศ น้องโอลีฟ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ รับเห็นแล้วหลงรัก จึงโทรมา เบื้องต้นปรับไป 3 พันบาท จากกรณีที่มี หนุ่มโรคจิตโทรป่วนขอมีเพศสัมพันธ์กับ “น้องโอลีฟ” น.ส.อรัญญา อภัยโส แม่ค้าโตเกียวแหวกอกคนดัง จนนำไปสู่การแจ้งความ เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดผู้ต้องหา หรือ นายบุรากร อายุ 33 ปี โดยผู้ต้องหาได้เดินทางมอบตัวที่ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โทษเสียค่าปรับ 3,000 บาท

พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้เสียหายน้องโอลีฟ ถูกคุกคามล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจได้สืบสวนจนรู้ว่าผู้ต้องหาเป็นใคร ซึ่งผู้ต้องหาเองมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ออกหมายเรียก ทางผู้ต้องหาก็ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหา

ข้อกล่าวหานั้นเป็นมาตรา 397 คือกระทำการใด ๆ ต่อผู้อื่นที่เป็นการรังแกข่มเหงคุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ อับอาย หรือมีการกระทำในลักษณะส่อไปในทางล่วงเกินทางเพศ ซึ่งมีโทษหนัก ปรับไม่เกิน 10,000 บาท จับคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำและปรับ

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและพร้อมที่จะรับโทษตามกฏหมาย ในชั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ก็ได้แจ้งให้ทางผู้เสียหายได้รับทราบแล้ว น้องโอลีฟ ก็ยินยอมตามนั้น ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาโทษปรับ

ผู้ต้องหารับสารภาพว่า กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่เคยมาเชียงใหม่ ไม่เคยมาซื้อขนมที่ร้านของน้องตามที่ได้โทรมาก่อกวน เห็นภาพน้องตามสื่อต่างๆ นึกเกิดชอบหลงรัก น้องสวยและอวบอั๋นดี จึงได้โทรมา สำหรับประวัติผู้ต้องหารายนี้ เคยต้องคดีอาวุธปืน และพยายามฆ่า ติดคุกมาแล้วเมื่อปี 57 และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 61

ตร. แจ้ง ข้อหา ส.ต.ต. นรวิชญ์ เพิ่มอีกสอง ข้อหา หลังชน หมอกระต่าย ดับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง ข้อหา ส.ต.ต. นรวิชญ์ เพิ่มอีกสอง ข้อหา หลังจากที่ขับบิ๊กไบค์ชน หมอกระต่าย เสียชีวิตที่ทางม้าลาย หมออนิรุทธ์ นายแพทย์อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล พ่อของ แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ที่เสียชีวิตที่ทางม้าลาย หลังจากถูกบิํกไบค์ของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ชนเสียชีวิต เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดพ่อของหมอกระต่าย ได้เดินทาง พบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับหมอกระต่ายและประวัติของครอบครัว ขณะที่เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยบุคคล,ขับรถเร็วเกินกำหนด โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพ โดยขณะนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ถูกแจ้งเก้าข้อหาจากเหตุสลดดังกล่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ถูกแจ้งข้อหาดังนี้ 1.ขับรถโดยประมาทและการกระทำนั้น เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง 3.ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 4.ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) 5.มีความผิด พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหาฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี 6.นำรถไม่สมบูรณ์มาขับ เพราะไม่ติดกระจกส่องหลัง และ 7.ข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คือการใช้รถที่ยังไม่ได้จัดให้มีประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองฯ..

เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ขับรถตามประกบและล็อกหน้าล็อกหลัง และสามารถจับกุมคนร้ายรายได้นี้ได้บนถนนภายในซอย 2 ถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อไปเยี่ยมพ่อที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล โดยใช้วิธีสวมฮิญาบหรือผ้าคลุมศีรษะสตรีมุสลิมเพื่อปลอมตัวและตบตาตำรวจ อีกทั้งมีลูกชายวัย 3 ขวบนั่งมาด้านหน้า

“ตำรวจภูธรภาค 1 จะสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างสุดความสามารถ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป” พล.ต.ท.อำพล กล่าว

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป